การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี รายการ “ช้าง จูเนียร์ คัพ 2018” รอบชิงอันดับ 3 ที่สนามกีฬากองทัพบก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ โรงเรียนวิสุทธรังษี ผลปรากฏว่า ปราสาทสายฟ้า โชว์ผลงานได้เหนือกว่า เป็นฝ่ายต้อนเอาชนะไปได้ 6-2

โดย บุรีรัมย์ ได้ประตูจาก ปริพรรท์ วงษา นาทีที่ 21, นาทีที่ 49, เกริกพล เกิดแก้ว นาทีที่ 29, นาทีที่ 47, ภควัต แต่งอักษร นาทีที่ 41, ศิริสิทธิ์ แฉ่งขำโฉง นาทีที่ 60+1 ส่วนโรงเรียนวิสุทธรังษี ได้ประตูจาก ภควัต แต่งอักษร ทำเข้าประตูตัวเอง นาทีที่ 53 และกิตติภูมิ รักสาย นาทีที่ 56 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า คว้าอันดับที่ 3 ไปครอง รับทุนการศึกษา 20,000 บาท ส่วนโรงเรียนวิสุทธรังษี อันดับที่ 4 รับทุนการศึกษา 10,000 บาท

ส่วนคู่ชิงชนะเลิศ โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี เอาชนะ โรงเรียนเทศบาล 1 สมุทรปราการ ไปได้ 5-1 mทำให้ โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 รับทุนการศึกษา 50,000 บาท และสิทธิ์เดินทางไปฝึกทักษะ ณ ประเทศอังกฤษกันแบบยกทีม ส่วนโรงเรียนเทศบาล 1 สมุทรปราการ รองชนะเลิศ รับทุนการศึกษา 30,000 บาท

นอกจากนี้ “เครื่องดื่มตราช้าง” ยังมีรางวัลพิเศษสำหรับนักเตะฝีเท้าดีที่ผ่านการคัดเลือกจาก มร.ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย ผู้ฝึกสอนเยาวชนทีมชาติไทย 6 รางวัล คือ ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ได้แก่ อาชัญ แก้วเพชร จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, กองหลังยอดเยี่ยม ได้แก่ กันตภณ สีลารัตน์ จากโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี, กองกลางยอดเยี่ยม ได้แก่ กฤตภัค แสงสวัสดิ์ จากโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี, กองหน้ายอดเยี่ยม ได้แก่ อัษฎา หอมหวล จากโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี

รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม หรือ Most Valuable Player (MVP) ได้แก่ ธีรภัทร์ นันทโกวัฒน์ จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี และรางวัลนักเตะผู้มีพรสวรรค์ หรือ “Most Talented Player” ได้แก่ ภาณุวิชญ์ กุมารสิทธิ์ จากโรงเรียนเทศบาล 1 สมุทรปราการ ซึ่งจะได้สิทธิ์เดินทางสู่ประเทศอังกฤษพร้อมกับทีมแชมป์ และรางวัลพิเศษอีก 1 รางวัล คือ “Sportsmanship Award” ซึ่งได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย