ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนแปลงตัวนักเตะแบบเมเจอร์ครั้งหนึ่ง ที่ทำให้แฟนๆ ของสโมสร ถึงกับออกอาการ “ไม่มั่นใจ” กันเป็นแถวๆ ด้วยเหตุที่ทีมขายแข้งดุจากแดนกระทิง คาร์เมโล กอนซาเลซ อดีตดาวซัลโว ไทยลีก ปี 2556 ออกไปให้กับ สุพรรณบุรี เอฟซี แล้วดึงเอาตัวอดีตทีมชาติบราซิล ดิโอโก หลุยส์ ซานโต มายืนแทน

แต่เพียงแค่นัดแรก ที่กองหน้าจากแดนแซมบ้าคนนี้ ได้ลงสนามรับใช้ทีม ก็ทำให้แฟนบอลเซราะกราวถึงกับเทใจให้เขาอย่างท่วมท้นถล่มทลาย ด้วยลีลาการเล่นแบบดุดัน  บวกกับความมั่นใจที่มีอย่างเต็มเปี่ยม ดิโอโก ได้สังหารประตูให้กับทีมเป็นว่าเล่นในแต่ละนัดที่ลงสนาม

ถึงวันนี้ 3 ปีแล้ว ที่ดาวยิงตัวเก่งจากประเทศบราซิล ได้รับหน้าที่เป็นผู้เล่นตัวหลักในทีม เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่พา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์อย่างมากมาย และหลังจากอาการบาดเจ็บในปีที่แล้ว ที่ทำให้เขาต้องพักรักษาอาการไปหลายเดือน ในวันนี้ เขากลับมาแล้ว และพร้อมที่จะเป็นหัวหอกนำพา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับมา STRIKE BACK ทวงเอาแชมป์ของเรากลับคืนมา

Q : คุณอยู่กับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นปีที่ 3 แล้ว ยังรู้สึกว่าต้องมีการปรับตัว เพื่อให้เข้ากับทีมอยู่ไหม ?

A : (หัวเราะ) ผมอยู่ที่นี่มา 3 ปี จนรู้สึกว่าที่นี่เหมือนบ้านของผม และครอบครัวไปแล้วครับ ตอนนี้ผมไม่ต้องปรับตัวอะไรอีกแล้ว ลูกผมก็เรียนที่โรงเรียนในบุรีรัมย์ ครอบครัวผมตอนนี้ก็มีความสุขดีครับ

ส่วนเรื่องของฟุตบอล ผมแทบไม่ต้องปรับอะไรมากแล้วในตอนนี้ พวกเราในทีมเล่นด้วยกันมาตลอด เราเข้าใจระบบ และสไตล์การเล่นซึ่งกันและกันแล้ว กับนักเตะต่างชาติคนใหม่ๆ ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหา ผมสามารถเล่นกับทุกคนได้ดีไม่ว่าจะ “จาจ้า” แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ และ “โรจี้” โรเจอริโอ คูติญโญ ตอนนี้ผมอยากให้ โรจี้ หายเจ็บกลับมาเล่นกับพวกเราไวๆ เพราะผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพที่เขามี จะช่วยให้เราแข็งแกร่งขึ้นได้จริงๆ ครับ

Q : อัปเดตชีวิตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาให้ฟังหน่อย ?

A : อย่างที่บอก ตอนนี้ผมมองว่าที่นี่คือบ้าน ผมว่าทุกคนที่นี่รักผม (หัวเราะ) ผมมีความสุขมาก ที่บุรีรัมย์ ทุกวันนี้มีพร้อมทุกอย่าง เวลาผมว่างจากการแข่งขัน หรือการซ้อม ผมจะชอบใช้ชีวิตกับครอบครัว เรามีกิจกรรมทำด้วยกันตลอด ไม่ว่าจะไปดูหนัง หรือพาลูกๆ ไปเที่ยว

Q : รู้ไหมว่าลูกชายของคุณมีแฟนคลับเยอะมากตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง ช่วยอัปเดตชีวิตของเขาให้แฟนๆ รู้หน่อย ?

A : ผมรู้ว่าลูกผมมีแฟนคลับ เป็นเรื่องที่ดีที่พวกเขาชอบ และรักลูกผมครับ ตอนนี้ลูกของผมก็เรียนอยู่ที่บุรีรัมย์นี่แหละ ตัวเขาเองก็มีความสุขดีนะ แฟนๆ จะเจอเขาได้ในวันที่มีบอลแข่งครับ เพราะเขาชื่นชอบฟุตบอลมาก เขามีความสุขที่ได้ดู และเล่นฟุตบอล

Q: ปีนี้มีนักเตะต่างชาติย้ายเข้ามาใหม่หลายคนคุณได้ช่วยพวกเขาในการปรับตัวเข้ากับทีมบ้างไหม อย่างไร ?

A : แน่นอนครับ ได้ผมช่วยพวกเขาในการปรับตัวพอสมควร ผมบอกทุกอย่างที่ผมรู้เกี่ยวกับฟุตบอลไทยให้พวกเขาทราบ ทั้งจุดอ่อน และจุดแข็ง และผมยังแนะนำอะไรอีกหลายอย่างให้พวกเขา ซึ่งมันสำคัญมาก ผมอยากทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน ให้อยู่ที่นี่อย่างมีความสุข

Q : อยากให้พูดถึงคอนเซปต์ “STRIKE BACK” ของทีม ตามที่คุณเข้าใจ ?

A : ความหมายมันตรงตัวเลย เราต้องการเอาคืนทุกแชมป์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นทีมใหญ่ ปีที่ผ่านมาเราพลาดอะไรไปหลายอย่าง เรามีปัญหาหลายอย่าง แต่ปีนี้เราเห็นปัญหา เราก็แก้ไขกัน บอกเลยว่าปีนี้เราต้องการถ้วยแชมป์กลับมา นี่คือความเข้าใจของผมนะ (หัวเราะ)

Q : คิดว่ามีทีมไหนในไทยลีกที่มีการพัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างน่าสนใจในปีนี้ ?

A : ทุกทีมในไทยลีกน่ากลัวหมด แต่ผมคิดว่า เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นทีมที่น่าจับตามองมาก เขาได้ผู้เล่นดีๆ ไปร่วมในทีมหลายคน นอกจากนี้ก็มีทีมอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมที่ดีนะ แต่เราคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เราคือทีมที่แข็งแกร่ง เราไม่กลัวทีมไหนอยู่แล้ว เราต้องกลับมาทวงแชมป์ของเราคืนให้ได้

Q : ความท้าทายในปีนี้คืออะไรสำหรับคุณ ?

A : นอกจากการยิงประตูให้ได้ ที่เป็นความท้าทายของผมแล้ว ปีนี้ผมต้องการที่จะกลับมาช่วยทีมคว้าแชมป์กลับมาให้แฟนบอลให้ได้ ในเวลานี้ไม่มีอะไรท้าทายไปกว่าการได้ไล่ล่าแชมป์ และการไล่ล่าความสำเร็จอีกแล้ว

Q : สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บ้าง ?

A : พวกคุณต้องเชื่อมั่นในตัวพวกเรา และทีม ผมอยากจะขอบคุณที่มาให้กำลังใจพวกเรา ผมหวังว่าเราจะเป็นแชมป์ เพื่อให้พวกคุณได้กลับมามีความสุขกันอีกครั้งครับ

ภาพ - ข้อมูลจาก : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แมตช์เดย์ 2017 ฉบับที่ 2